วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อย่าลืมหลักการ

ยังคงมีสิ่งที่น่าสงสัย
ใครเป็นใครใบหน้าหาแจ้งจิต
มากเล่ห์กลปนเปื้อนเหมือนเป็นมิตร
แต่ความคิดอาจเป็นภัยไม่แจ้งชัด
เรื่องที่ฟังอาจยังไม่ทั้งหมด
เพราะผู้พูดเปลี่ยนบทตามถนัด
เรื่องที่อ่านอาจไร้ประเด็นชัด
เพราะผู้เขียนเจนจัดแทรกมุขตน
ฟังอะไรอ่านอะไรให้ระวัง
อย่าเพิ่งชังอย่าเพิ่งรักในแรกหน
อาจพลาดพลั้งเชื่อสิ่งอัปมงคล
ใจที่ดีของตนต้องหมองไป
บางเรื่องราวเขียนกล่าวอย่างเข้มขึง
คนฟังอึ้งเชื่ออย่างไม่สงสัย
ลืมคิดถึงผู้พูดที่เดาใจ
ทั้งผู้เขียนก็ไม่ใช้ผู้ร่วมวง
อย่าลืมหลักการพุทธหยุดจิตหมอง
อย่าลืมกรองถ้อยคำก่อนใหลหลง
อย่ายึดถือตามคำสืบจำนง
อย่าตั้งวงตื่นข่าวกล่าวเชื่อพลัน
อย่าเชื่อเพราะอ้างตำราพายึดติด
อย่าเพียงคิดเดาเองอย่างเพ้อฝัน
อย่าได้คาดคะเนว่าข้ารู้ทัน
อย่าสรุปสิ่งนั้นตามอาการ
อย่าได้ชื่นชมเพราะถูกใจตน
อย่าเชื่อคนที่พูดเพราะภูมิฐาน
อย่าเชื่อเพราะเห็นเป็นครูอาจารย์
อาจถึงกาลย่อยยับกับศรัทธา
ความเชื่อที่ไม่มีเรื่องเหตุผล
มักพาคนไปพบกับปัญหา
ความเชื่อที่ไร้ซึ่งกุศลปัญญา
เกิดกระแสโหมกล้ากิเลสนอง

จงฉลาด พอที่จะอ่าน

จง…เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง จง...อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง จง...ฟุ่มเฟือยน้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ จง…คิดก่อนทุกครั้งที่จะปล่อยเงินออกจากมือ จง...ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง จง...โง่พอที่จะเชื่อในปาฏิหาริย์ จง ...เต็มใจจะแบ่งปันความสุขของตัวเอง จง...เต็มใจที่จะแบ่งรับความทุกข์ของผู้อื่น จง...เป็นผู้นำหากทางที่ผู้อื่นทิ้งไว้ให้นั้นเลือนราง จง...เป็นผู้ตามหากตกอยู่ในวงล้อมแห่งความไม่แน่นอน จง...เป็นคนแรกที่แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของคู่แข่ง จง...เป็นคนสุดท้ายที่จะวิจารณ์ความผิดพลาดของเพื่อน จง...มองเพียงแค่ก้าวถัดไปเพราะมันจะทำให้เราไม่ล้ม จง..มองไปยังจุดหมายปลายทางให้แน่ใจว่า ไม่ได้กำลังเดินผิดทาง จง..ใช้เวลามอง หรือให้โอกาสกับตัวเองที่จะเรียนรู้คนที่เขาบอกรักคุณ จง...รักคนที่รักคุณ แม้อีก 5 ปี 10 ปี หรือ 50 ปีเขาก็ยังรักคุณ จง...รักคนที่ไม่รักคุณแล้ว...สักวันนึงเค้าอาจจะเปลี่ยนใจมารักคุณ จง...อย่าปล่อยให้คนที่รักคุณหลุดลอยไป สุดท้าย จง...อย่าหลอกตัวเอง -- สว่างตา ด้วยแสงไฟ สว่างใจ ด้วยแสงธรรม พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันๆของผมจะเปลียนไป

ผมจะต้องทำงานระหว่างเรียนอย่างมีความสุข สนุก ง่าย
ผมจึงต้อง
เข้าใจไวยากรณ์อย่างถ่องแท้
มีคลังคำศัพท์ในปริมาณพอสมควร
ทำเรื่องที่ยากซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่าย
ซ้อมการอธิบาย อย่างมืออาชีพ และจิตนาการว่าเป็นเด็นนักเรียนที่ไม่รู้อะไรมาก่อนมักเข้าใจง่าย
ดึงการใช้จิตวิทยาคนมาใช้
บริหารเสน่ห์ เสริมสรางบุคคลิกภาพให้น่าเชื่อถือ
ฝึกความคิดสร้างสรรค์ทุกวิถีทาง
ฝึกการใช้เหตผล ตรรกะ
ความรู้ทางด้านวัฒนธรรมของภาษานั้นแน่น
มีวินัยอย่างที่สุด บริหารเรื่องงาน ส่วนตัว ได้ลงตัว