วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ผัดไทยหนึ่งนาทีครึ่ง

ผัดไทยหนึ่งนาทีครึ่ง แม่ครัวในร้านอาหารประจำของผมทำผัดไทยเสร็จในเวลาหนึ่งนาทีครึ่งเริ่มต้นที่วางกะทะ จุดไฟ ใส่น้ำมัน หยิบก๋วยเตี๊ยวเส้นเล็กลงไปลวกในหม้อน้ำร้อน หั่นเต้าหู้แข็งเป็นชิ้น ตักเครื่องปรุงเช่นกุ้งสด กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง กระเทียม ฯลฯ ลงกะทะ ระหว่างที่ปล่อยให้มันสุก ก็หันไปยกเส้นเล็กที่เพิ่งลวกเสร็จลงกะทะ ควงตะหลิวเขี่ยเครื่องปรุงกับเส้นเล็กให้เข้ากัน ตอกไข่ไก่ตามลงไป ในนาทีที่ 1.5 ทุกสิ่งสรรพในกะทะก็นอนสงบนิ่งบนจานพร้อมเสิร์ฟเชื่อว่าแม่ครัวคงไม่เคยเรียนวิชา Critical Path Method ในมหาวิทยาลัย การจัดการกับงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันนี้มาจากประสบการณ์ล้วนๆ และเมื่อจัดการเป็น สิ่งที่ทำก็ดูเหมือนปาฏิหาริย์ผมพบว่าในชีวิตของตัวเอง มักชอบทำงานสองอย่างที่ต่างกันในเวลาเดียวกันเสมอสมัยหนึ่งที่ผมทำงานโฆษณาก็ริเขียนหนังสือ ทว่างานโฆษณาเป็นงานที่กัดแทะเวลาของคนทำงานโดยไม่เลือกกลางวันหรือกลางคืนทว่าเมื่อเลือกเหยียบเรือสองแคม ก็ต้องหาเวลามาเพิ่ม แต่เวลาของมนุษย์ทุกคนเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง การหาเวลาเพิ่มก็คือการลดเวลาที่ไม่จำเป็นออกไปคำถามที่ผมได้ยินเสมอคือ "งานเยอะอย่างนี้ เอาเวลาไหนมาเขียนหนังสือ?"คำตอบง่ายนิดเดียว ผมเขียนหนังสือตอนที่คนอื่นดูทีวี ตอนกินข้าว ตอนรอคน ตอนที่นั่งในรถแท็กซี่ ไม่มีเวลาสักนาทีที่เสียไปหลักของการบริหารเวลาไม่ยาก สิ่งแรกก็คือต้องรู้จักเสียดายเวลาก่อน เมื่อรู้จักเสียดาย ก็จะหาทางทำทุกอย่างเพื่อใช้มันให้คุ้มที่สุด การบริหารเวลาที่ดีคือไม่มีคำว่า 'ฆ่าเวลา' มีแต่ 'ค่าเวลา'ในนวนิยายจีนกำลังภายในเรื่อง มังกรหยก ตัวเอกนาม ก้วยเจ๋ง เรียนวิทยายุทธ์โดยแบ่งความคิดออกเป็นสองส่วน ขณะที่มือข้างซ้ายร่ายกระบวนท่าวิชาหนึ่ง มือข้างขวาก็ร่ายกระบวนท่าของอีกวิชาหนึ่ง เมื่อสู้กับศัตรูก็เหมือน ทู-อิน-วัน สองรุมหนึ่ง!ในชีวิตจริงเราก็ใช้หลักการนี้ได้ โดยการทำงานในลักษณะที่คู่ขนานกัน หรือทำมากกว่าหนึ่งงานในช่วงเวลาเดียว เพราะหลายงานทำซ้อนกันได้ ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่คุณนั่งรถเมล์ แท็กซีี่ ก็คิดงานที่คั่งค้างได้ ขณะรอแฟนช็อปปิ้ง ก็ทำงานหาเงิน (บางครั้งเพื่อให้แฟนได้ช็อปปิ้ง!) เป็นต้นช่วงเวลาที่คิดไม่ออกเรื่องหนึ่ง ก็ไปทำอีกเรื่องหนึ่งหลายคนชอบใช้เหตุผลที่ไม่ออกกำลังกายว่าเพราะเวลาน้อย แต่ความจริงก็คือช่วงยามที่เดินออกกำลังกายก็ขบคิดงานสร้างสรรค์ได้ไอนสไตน์ชอบแช่อ่างอาบน้ำและขบปัญหายากๆ ไปพร้อมกันเวลากินข้าว ก็คุยเรื่องดีๆ กับลูกได้เวลาชงกาแฟก็คิดได้นัดหมายใครก็ไปก่อนเวลานัด และใช้เวลารอนัดนั้นทำงานได้ เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือไม่เสียเวลานัด และได้งานเวลาในชีวิตมีจำกัด จึงต้องใช้เวลาให้เป็น และเมื่อใช้เวลาเป็น ก็จะพบว่าเวลา 24 ชั่วโมง เหลือเฟือที่จะทำการใดๆ วินทร์ เลียววาริณ 13 มิถุนายน 2552(พิมพ์ครั้งแรก : เปรียว 2552)


พบว่าถ้าเวลาจิตว่าง ไม่ยึดติดสิ่งใดก็ช่วยงานที่ต้องบริหารเวลาดีขึ้นมาได้ เช่นวันนี้ ที่ทำความสะอาดห้อง แต่เราตัดความกังวลออกไปมันเสียเลยแล้วตั้งใจทำแป๊ปเดียวก็เสร็จขึ้นมาจริงๆ เรื่องไกล้ตัวแค่นี้ก็ทำให้เราประหลาดใจฉะนั้นหากจะทำเรื่องใหญคงสนุกและท้าทายเป็นแน่แท้

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

“ทักษะการจัดระบบ” ทักษะเพื่อความลงตัวในการใช้ชีวิต

วันที่ : 17 มีนาคม 2551 นิตยสาร/หนังสือพิมพ์ : แม่และเด็ก

ทักษะการจัดระบบ (Organization skill) นับเป็นทักษะสำคัญอันนำมาซึ่งความลงตัวและประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการจัดระบบชีวิตส่วนตัว การเรียน การทำงาน การใช้ชีวิตครอบครัว อีกทั้งยังเป็นทักษะจำเป็นต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขของคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคโลกา ภิวัตน์ที่สังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งกว่ายุคใดในอดีตที่ผ่านมา

ที่ใดไม่มีการจัดระบบที่นั่นย่อมอยู่ในสภาวะแห่งความสับสนวุ่นวาย อาทิ

บ้านเมืองใดที่ไม่มีการจัดระบบวางผังเมืองอย่างดี...ย่อมนำมาซึ่งปัญหาตามมามากมายทั้งปัญหาจราจรติดขัด ปัญหาสิ่งแวดล้อม มลภาวะ น้ำท่วม ฯลฯ

องค์กรใดที่ไม่มีการจัดระบบบริหารจัดการอย่างดี...ย่อมนำมาซึ่งการขาดประสิทธิภาพและความสับสนวุ่นวายในการทำงาน ความขัดแย้งไม่ลงรอยระหว่างผู้บริหารและผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ส่งผลให้องค์กรไม่สามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้

บ้านใดที่ไม่มีการจัดระบบระเบียบ...ย่อมนำมาซึ่งความไม่น่าดู สกปรก รกรุงรัง จะค้นหาอะไรก็แสนยากลำบาก เพราะไม่รู้ว่าไปเก็บไว้ที่ไหน อันอาจเป็นชนวนให้เกิดการทะเลาะวิวาทความไม่ลงรอยระหว่างกันในครอบครัวตามมาได้

บุคคลใดที่ไม่มีการจัดระบบระเบียบในชีวิตส่วนตัว...ย่อมนำมาซึ่งการเปิดจุดอ่อนในชีวิต ยากที่ชีวิตจะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน อ่อ มิน่า ชีวิตเรามันถึงได้.............-_-

ทักษะการจัดระบบจึงนับเป็นทักษะที่มีความสำคัญทั้งในระดับมหภาคและจุลภาคที่ควรสร้างให้เกิดขึ้นเป็นลักษณะนิสัยของคนในชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทยที่คนส่วนใหญ่ขาดระบบระเบียบในการใช้ชีวิต ต่างไปจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ เช่น ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ ที่ “ความมีระบบระเบียบ” เป็นคุณลักษณะประจำชาติที่สำคัญอันนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง
เจงๆนะคนไทยเนี่ยใช้ชีวิตผิดระบบแค่เรื่องเล็กน้อย เห็นใหมก่อปัญหาใหญ่ระดับชาติเลย ก็อีแค่ระบบซึงเราเองก็ยังทำมะได้ อิอิ
ทักษะการจัดระบบ ไม่ใช่เป็นเพียงการทำตามระเบียบแบบแผน กฎเกณฑ์ที่สร้างขึ้น หรือการมีระเบียบวินัยเท่านั้น แต่ทักษะการจัดระบบเป็นความสามารถในการจัดการกับสภาพความสับสนวุ่นวาย หรือสภาพการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ โดยการออกแบบ “ช่องทาง” หรือ “ระบบ” ใหม่ ๆ มารองรับเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาทักษะด้านนี้จำเป็นต้องอาศัยการหมั่นฝึกฝนและการสั่งสมประสบการณ์ ดังนั้นจึงควรเริ่มฝึกฝนตั้งแต่วัยเยาว์ โดยพ่อแม่สามารถช่วยในการฝึกฝนทักษะด้านนี้ให้แก่ลูกได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น

การจัดระบบข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างและเป็นผู้ริเริ่มให้ลูกเห็นถึงแนวทางการจัดระบบจากตัวอย่างจริงภายในบ้าน โดยเริ่มจากชักชวนลูกให้

...สำรวจอุปกรณ์เครื่องใช้สิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้าน ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ในห้องครัว ห้องน้ำ ห้องสมุด จดหมายที่ได้รับทางไปรษณีย์ ขยะมูลฝอยประเภทต่าง ๆ ฯลฯ โดยจัดทำบัญชีรายการสิ่งของทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง

...ช่วยกันจัดหมวดหมู่ จากรายการอุปกรณ์ต่าง ๆ ว่าอุปกรณ์ใดควรอยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยคำนึงได้จากปัจจัยต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์และประโยชน์การใช้สอย เช่น จัดกลุ่มตามลักษณะการใช้งาน จัดกลุ่มตามความถี่ในการใช้งาน จัดกลุ่มตามสี จัดกลุ่มตามขนาด เป็นต้น โดยให้ลูก ๆ มาช่วยกันจัดว่าอุปกรณ์ใดควรอยู่ในกลุ่มใด

...จัดเรียงอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ในที่ ๆ เหมาะสมในการใช้งาน จัดหาพื้นที่ว่าง ห้องว่าง ชั้นวางของ ลิ้นชัก กล่องหรือลัง เพื่อช่วยกันนำของที่จัดหมวดหมู่ในมาจัดเรียงอย่างเป็นระบบระเบียบ พ่อแม่ควรชักชวนลูกร่วมกันออกแบบว่าควรจัดเก็บสิ่งใดไว้ในที่ใดภายในบ้าน พร้อมให้เหตุผลว่าเพราะเหตุใด

....จัดทำแบบบันทึกรายการ ว่าเราเก็บสิ่งใดไว้ที่ใด เพราะหากไม่มีการจดไว้ หรือไม่ได้มีการเขียนติดไว้ที่หน้าตู้ กล่อง ลิ้นชัก สถานที่เก็บอื่น ๆ แล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเราอาจลืมไปเลยว่าเคยเก็บสิ่งนี้ไว้ที่ใด หรืออาจลืมไปเลยว่าเราเองมีสิ่งของนี้อยู่ที่บ้านเช่นกัน

การจัดกระเป๋าหนังสือเรียนของลูก เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักมีปัญหาเรื่องการจัดตารางสอนหรือการจัดกระเป๋าหนังสือไปโรงเรียน บ้างก็ลืมของ ลืมการบ้าน ลืมหนังสือ ไปโรงเรียน บ้างก็ไม่เคยจัดกระเป๋าเลยแต่ขนไปทุกอย่างจนสรีระร่างกายมีปัญหาเนื่องจากแบกของหนักมากเกินไป ดังนั้นพ่อแม่จึงควรฝึกทักษะการจัดระบบให้แก่ลูกด้วยการดูแลในเรื่องการจัดกระเป๋าหนังสือเรียนของลูกทุกครั้ง ที่ไปโรงเรียน ช่วยลูกจัดตารางสอน จัดอุปกรณ์การเรียนการสอนออกเป็นหมวดหมู่ง่ายต่อการหยิบใช้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการสอนให้ลูกจัดเก็บเอกสารการเรียนอย่างเป็นระบบ อาทิ การใช้แฟ้ม กล่องใส่เอกสาร รวมไปถึงการจัดเก็บเข้าไฟล์ในคอมพิวเตอร์ อย่างเป็นระบบ ในการกำหนดชื่อไฟล์ โฟลเดอร์ ที่ง่ายต่อการเข้าถึงและใช้ประโยชน์

การจัดเก็บของเล่นของลูก ของเล่นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเด็ก ๆ ทุกคน ปัญหาส่วนใหญ่ที่พ่อแม่มักพบ คือลูกอาจมีของเล่นเยอะมาก และไม่ได้เก็บไว้อย่างเป็นที่เป็นทาง ทำให้หาของเล่นชิ้นนั้นไม่พบเมื่อจะมาเล่นในครั้งต่อไป ดังนั้นพ่อแม่ไม่เพียงแต่สอนให้ลูกเก็บของเล่นเป็นที่เป็นทางหลังเลิกเล่นแล้วเท่านั้น แต่ควรสอนให้ลูกรู้จักจัดระบบของเล่นของตนด้วยเช่นกัน โดยแบ่งของเล่นเป็นประเภทต่าง ๆ อาทิ หมวดตุ๊กตา หมวดเกม หมวดกีฬา หมวดตัวต่อ พร้อมหากล่อง ลัง ลิ้นชัก ตู้ ฯลฯ ไว้ใส่ของเล่นลูกตามหมวด รวมทั้งติดชื่อรายการของเล่นต่าง ๆ ไว้ด้านหน้า เพื่อสะดวกต่อการหา และการจัดเก็บ ทั้งนี้เด็กส่วนใหญ่อาจไม่ชอบที่จะเก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ พ่อแม่จึงอาจต้องใช้วิธีการจูงใจให้ลูกเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกในการแยกของเป็นหมวดหมู่ หรืออาจต้องมีมาตรการสร้างแรงจูงใจ อาทิ คำชม รางวัล ให้กับลูกทุกครั้งที่มีการเก็บของเล่นของตนไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ
ถ้าเรื่องขี้ปะติ๋วยังต้องจัดระบบ งันเราก็ต้องระบบให้ตัวเองด่วน เพราะผิดตั้งแต่ระบบ ชีวิตจึงเกด ทุกข์ สับสน วุ่นวาย
โดยภายหลังจากการจัดระบบใด ๆ เสร็จสิ้นสิ่งสำคัญที่ควรดำเนินการ คือ การจัดทำใบบันทึกรายการ หรือคู่มือด้วยทุกครั้งเพื่อเป็นประโยชน์ในการหาสิ่งของต่าง ๆ และเป็นแนวทางในการจัดระบบให้ทันสมัยในครั้งต่อไป ทั้งนี้หัวใจหลักสำคัญอันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในการฝึกฝนทักษะดังกล่าว ได้แก่

...ความสามารถในการคิดหาระบบที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความสามารถในการคิดเป็นสำคัญ กล่าวคือ การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking) เพื่อจำแนกองค์ประกอบต่าง ๆ จากสภาพความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นว่ามีอะไรบ้าง...การคิดเชิงมโนทัศน์ (Conceptual Thinking) เพื่อนำองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ได้จากการคิดเชิงวิเคราะห์นั้นมาจัดกลุ่มให้เข้าพวกกัน...การคิดเชิงสังเคราะห์ (Synthesis-Type Thinking) ตายและคนเขียนเขียนเองทั้งน้าน ไปอ่านมาด่วน ชีวิตจะเกิดระบบรอไม่ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตายทำไง มะได้อ่านกันพอดี เพื่อนำองค์ประกอบต่าง ๆ ที่จัดกลุ่มแล้วนั้นมาสร้างเป็นระบบหรือช่องทางใหม่ที่มีความคล่องตัวมากกว่าเดิมเพื่อการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ โดยพ่อแม่สามารถสอนให้ลูกเรียนรู้ด้วยการเป็นแบบอย่างให้ลูกเห็นรวมทั้งอาจสอนผ่านตัวอย่างการจัดระบบต่าง ๆ ที่มักพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น การจัดระบบจัดหมวดหมู่ในสมุดโทรศัพท์ พจนานุกรม สารานุกรม สารบาญในหนังสือประเภทต่าง ๆ วิธีการจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุด การจัดหมวดหมู่สินค้าประเภทต่าง ๆในห้างสรรพสินค้า ฯลฯ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะการจัดระบบในชีวิตประจำวันของเราต่อไป

...ความมีวินัยหมั่นฝึกฝนและทำอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อจัดระบบในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเสร็จแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องไปทำอะไรกับมันอีก เพราะระบบที่ตั้งไว้อาจยังอาจไม่สมบูรณ์เพียงพอหรือล้าสมัย ซึ่งในระหว่างทางที่ใช้ระบบนั้นเราสามารถปรับเปลี่ยนพัฒนาระบบดังกล่าวให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป การเพิกเฉยไม่ใส่ใจปล่อยปละละเลยอาจส่งผลให้การจัดระบบเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น เนื่องจากสภาพการณ์มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจนอาจกลายเป็นดินพอกหางหมูยากที่จะสะบัดหลุดไปได้ พ่อแม่จึงควรช่วยลูกในการฝึกวินัย ในการจัดระบบสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เก็บข้าวของให้เป็นที่เป็นทาง ให้เคยชินเป็นนิสัย โดยในช่วงแรกอาจต้องสร้างแรงจูงใจ เช่น การให้รางวัล การกล่าวชมเชย เป็นต้น

ทักษะการจัดระบบเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญของการบริหารชีวิตอย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นการร่นระยะเวลาในการทำงานและลดความตึงเครียดในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคใหม่ที่การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีทักษะการจัดระบบที่ดีย่อมได้เปรียบในการรับมือกับสภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีในการจัดระบบชีวิตให้ลงตัวได้ในทุกสถานการณ์

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เล่นให้จบเกม

เล่นให้จบเกม ในช่วงที่นวนิยาย เพชรพระอุมา ของ พนมเทียน กำลังตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารจักรวาลรายสัปดาห์เมื่อผมยังละอ่อนอยู่นั้น ผมเคยภาวนาให้นักเขียนมีอายุยืนยาวร่างกายแข็งแรง เพราะติดนิยายงอมแงม และกลัวว่าเขาจะเขียนนวนิยายเรื่องนี้ไม่จบ!ผมเชื่อว่าตนเองคงไม่ใช่แฟน เพชรพระอุมา คนเดียวที่ภาวนาเช่นนี้ เมื่อดูจากความยาวของผลงานแล้ว ก็น่าหวาดหวั่นใจเหมือนกันว่านักประพันธ์มีสิทธิ์เขียนนวนิยายที่ยาวที่สุดในโลกเรื่องนี้ไม่จบ สำหรับงานที่อ่านสนุกระดับนี้ ใครๆ ก็ย่อมหงุดหงิดอย่างยิ่งหากเรื่องไปไม่ถึงบทสุดท้าย ดังนั้นเมื่อ เพชรพระอุมา เดินไปถึงบรรทัดสุดท้ายโดยสวัสดิภาพ ผู้อ่านก็ถอนหายใจโล่งอกหนึ่งเฮือก แต่ก็เกิดอาการหงุดหงิดเล็กน้อยที่เรื่องยังไม่ลงเอยด้วย แฮปปี้ เอนดิ้ง (นวนิยายสมัยนั้น 'แฮปปี้ เอนดิ้ง' หมายถึงพระเอกแต่งงานกับนางเอกสถานเดียว ไม่ต้องตีความ!) แสดงว่านักเขียนตั้งใจจะทำงานยาวแน่ๆ จริงดังคาด ไม่นานต่อมา พนมเทียนก็บรรเลง เพชรพระอุมา ภาคสอง ต่อในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ท่ามกลางความหวั่นกลัวลึกๆ ของผมอีก และแล้วผ่านไปอีกหลายปี ภาคสองจบ แต่พระเอกก็ยังไม่แต่งงานกับนางเอกสักที ตามมาด้วยภาคสามกว่าจะจบทั้งสามภาคก็กินเวลานานร่วมยี่สิบหกปี แต่นักเขียนก็ทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย โดยที่นักอ่านจำนวนมากโล่งอกสุขสม (พนมเทียนเคยเขียนเล่าว่า รู้สึกเบาตัว โล่งอกโปร่งใจเหลือประมาณ คล้ายยกภูเขาออกจากอกที่สามารถทำให้นวนิยายเรื่องนี้จบลงได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากระหว่างที่เขียนนั้น ผู้อ่านหลายคนตายไปก่อนเพราะสังขารรอไม่ไหว!)เหตุผลที่ผม (และเชื่อว่ารวมนักอ่านจำนวนมาก) รู้สึกกังวลลึกๆ ก็เพราะเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับนวนิยายหลายเรื่องในอดีต ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชนะสิบทิศ ของ ยาขอบ เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่สนุกมาก มีผู้อ่านทั่วประเทศติดงอมแงมจนมารอซื้ออ่านที่หน้าแท่นพิมพ์ ทว่ายาขอบเขียน ผู้ชนะสิบทิศ ไม่จบเพราะท่านตายเสียก่อนแม้นักอ่านจะเข้าใจสถานการณ์ แต่ลึกๆ ก็อดผิดหวังไม่ได้ อย่างไรก็ตามยาขอบก็ไม่สิ้นความรับผิดชอบ ขณะใกล้ตาย ท่านก็ยังบอกให้คนใกล้ตัวจดเรื่องย่อที่เหลือทั้งหมดเอาไว้ นวนิยาย ขุนศึก ของ ไม้ เมืองเดิม ก็เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์รสเข้มข้นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีผู้ติดตามมาก ทว่าผู้เขียนก็เสียชีวิตก่อนที่จะเขียนจบ น้องชายของท่านก็รับภารกิจเขียนต่อจนถึงบรรทัดสุดท้าย ถือเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องทำงานให้ถึงที่สุดในการเล่นหมากรุก สนุกเกอร์ กอล์ฟ ฯลฯ บางครั้งเมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ผู้เล่นฝ่ายหนึ่งก็รู้แล้วว่าตนเองจะแพ้ แต่ก็เล่นให้จบเกม เป็นมารยาทอย่างหนึ่งทุกอาชีพมีภาระของความรับผิดชอบ อาจจะจัดว่าเป็นจรรยาบรรณอย่างหนึ่ง ทนายความว่าความจนคดีถึงที่สุด หมอรักษาคนไข้คนจนหายหรือตาย ผู้รับเหมาก่อสร้างสร้างบ้านลูกค้าจนเสร็จ ไม่ทิ้งงานกลางคันคำว่า 'ความรับผิดชอบ' นี่แหละที่แยกแยะมืออาชีพออกจากมืออ่อนหัด จำแนกคนที่มีวุฒิภาวะออกจากคนที่ไม่รู้จักโตในการใช้ชีวิตก็มีจรรยาบรรณนี้เช่นกัน : ขับรถชนคนตายแล้วไม่เผ่นหนี ทำของเสียหายแล้วชดใช้ ทำหญิงท้องแล้วรับผิดชอบทำงานก็ทำให้จบทุกชิ้น ทำให้ถึงที่สุดมีความฝันก็ไปให้สุดฝัน ไม่ปล่อยคาไว้เมื่อเกิดมาแล้ว ก็ใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ถึงวันตายก็ไม่รู้สึกเสียใจว่ายังไม่ได้ทำโน่นทำนี่รับผิดชอบต่อคนอื่น รับผิดชอบต่อตัวเอง รับผิดชอบต่อความฝันของตัวเองเพราะถึงจะทำไม่สำเร็จ ก็ไม่เสียใจที่ยังไม่ได้เริ่มทำ วินทร์ เลียววาริณ 7 มิถุนายน 2552




ดีจัง..ชอบ ไม่ใช่แค่ชอบแต่จะนำไปใช้
จำได้ไหม
บอกพี่น้อยว่าจะไปฝึกงานที่โรงแรมไพลินแล้วตัวเองไม่ไป บอกอาจารย์สมบัติว่าจะทำทำอะไรตั้งหลายอย่างแล่ตัวเองไม่เคยทำ หลายๆเรื่องที่ผิดคำพูดเพราะความไม่ได้เรื่องของเรา ทำสิ่งี่ไม่ควรทำ ไม่ลำดับความสำคัญ โครงการที่เขียนเองตั้งใจปฏิบัตตามนั้นเปลี่ยนมากี่ครั้งแล้วจำได้ไหม เราเสียเวลาทำแต่ละครั้งไปมากเท่าไร เรราก็ชำใจเพราะขาดความรับรับผิดชอบมากขึ้นเท่านั้น ไม่พอบางทีโทษคนอื่น จำไก่ ผู้หญิงถึงผู้หญิงได้มั้ย เธอทำเช่นนั้นโทษคนอื่นว่าเตีรยมสคริปอ่านมาไม่ดี วันสาทรไทย อ่านเป็น สา-ทอน-ไทย คนอื่นมองหล่อนไม่ดีทันที เพราะแค่ไม่ยอมรับความผิดที่ตนทำแค่นั้น ........ทุกวันนี้เจ้านิคที่เรียนพิเศษกับเรามันจะยังรอชีทคำศัพท์ที่รวบรวมให้มันอยู่รึป่าว บอกไว้ว่าจะแจกทุกคนหลังเรียนเสร็จ.........................เสียความนับถือไปเสียแล้ว.......สร้างขึ้นก็ยากจะทำอะไรก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนและจะดีที่สุดไตรตรองมันด้วยปัญญาสิ